มัทฉะรื่อเจ้าเปิดตัวครั้งแรกในตลาดเครื่องดื่มชาเกรดพรีเมียมระดับนานาชาติ
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่โรงงานผลิตมัทฉะภายในอุทยานสาธิตนวัตกรรมชารื่อเจ้า ซึ่งตั้งอยู่ในเขตหลานซาน กล่องบรรจุมัทฉะที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนากำลังเคลื่อนตัวไปตามสายพานอย่างเป็นระเบียบ หลังผ่านการตรวจสอบจากศุลกากร มัทฉะจำนวน 20 ตัน ได้ถูกบรรทุกขึ้นรถเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และจะไปปรากฏบนชั้นวางสินค้าที่ประเทศอังกฤษในอีก 10 วันถัดมา —นี่ถือเป็นการ ส่งออกมัทฉะของรื่อเจ้าเป็นครั้งแรก โดยมีราคาจำหน่ายที่ 30 กรัม 12 ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงการเจาะตลาด เครื่องดื่มชาเกรดพรีเมียมระดับนานาชาติอย่างชัดเจน
“สินค้าชุดนี้จะสามารถเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรได้นั้น ต้องผ่านการตรวจสอบมากถึง
615 ขั้นตอน”นางสาว จาง หลานซี (Zhang Lanxi) ผู้อำนวยการบริษัท Rizhao
Matcha Holding Group Co., Ltd. กล่าวพร้อมเปิดรายงานผลการตรวจสอบ ซึ่งระบุว่า
ในตัวอย่างมัทฉะทั้งหมด ไม่พบสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง โลหะหนัก หรือจุลินทรีย์ใด ๆ
นาย
ติ้ง เว่ย (Ding Wei) รองหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบที่สองของ
ศุลกากรรื่อเจ้า (Rizhao Customs) กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
“สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรฐานการนำเข้าชาที่เข้มงวดที่สุดในโลก
โดยมีรายการตรวจสอบมากกว่ามาตรฐานทั่วไปหลายเท่า การที่มัทฉะของรื่อเจ้าผ่านการทดสอบครบทั้ง
615
รายการ ถือว่าเทียบเท่ากับการผ่านการทดสอบขั้นสูงสุดของอุตสาหกรรมชาเลยทีเดียว”
การเปิดตัวครั้งแรกของมัทฉะรื่อเจ้าในตลาดสหราชอาณาจักร
เกิดขึ้นได้ด้วยพื้นฐานแห่งความมั่นใจจาก การควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอนของอุตสาหกรรมชาเมืองรื่อเจ้า
ตลอดจน การพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมชาในแนวลึกอย่างครบวงจร
ในพื้นที่เพาะปลูกมัทฉะกว่า
2,000 ไร่ ครอบคลุมสามตำบลผลิตชา ได้แก่ ตำบลจวี่เฟิง (Jufeng), ตำบลเป่ยขั้ว (Beikuo) และพื้นที่อื่น ๆ ในเขตหลานซาน
(Lanshan District) ได้มีการดำเนินการปลูกชาโดยใช้ ระบบการจัดการที่เน้นพันธุ์ดี
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานการผลิตระดับสากล ครอบคลุมตั้งแต่การปรับปรุงคุณภาพดินไปจนถึงการคัดเลือกสายพันธุ์ชาให้เป็นไปตามมาตรฐานชาออร์แกนิกระดับนานาชาติ
นางสาว จาง หลานซี (Zhang Lanxi) เปิดเผยว่า“เราไม่เพียงแต่ปลูกชาเขียวคุณภาพสูงเท่านั้น
แต่ยังนำกิ่งชาและเศษชามาแปรรูปเป็น มาส์กมัทฉะ และผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจาก ทีอะนีน
(Theanine)
อีกด้วย”ผลิตภัณฑ์รองจากชาเหล่านี้ที่เคยถูกทิ้งกลับกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า
10 เท่า หลังผ่านกระบวนการสกัดทางชีวภาพที่ทันสมัย
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในขั้นตอนการคัดเลือกและปรับปรุงสายพันธุ์ได้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึง
พลังของการขับเคลื่อนด้วยผลิตภาพคุณภาพใหม่ (New Quality
Productive Forces) โดยเทคโนโลยีการปักชำและขยายพันธุ์ชาแบบหลายรากที่บริษัทพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศหรือที่เรียกว่า
“เทคโนโลยีการขยายพันธุ์ชาด้วยการปักชำหลายรากแบบรวดเร็ว”ช่วยลดระยะเวลาการเพาะพันธุ์ต้นชาจากเดิม
18 เดือนเหลือเพียง 38 วัน และสามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้นถึง
2 ปี วางรากฐานสำคัญให้กับคุณภาพของชาในระดับต้นน้ำของอุตสาหกรรม
นาย จาง โจ่วเจีย (Zhang Zuojia) กรรมการผู้จัดการของบริษัท กล่าวเพิ่มเติมว่า“เทคโนโลยีนี้ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ระดับชาติแล้ว
และขณะนี้เรากำลังร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อันฮุย (Anhui
Agricultural University) ในการจัดตั้ง สถานีทดลองรื่อเจ้า ของห้องปฏิบัติการสำคัญระดับชาติว่าด้วยนวัตกรรมพันธุกรรมและการใช้ประโยชน์ทรัพยากรชาทั่วประเทศ
เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ชาใหม่ที่ทนต่ออุณหภูมิต่ำและมีปริมาณกรดอะมิโนสูงยิ่งขึ้น”
กระบวนการควบคุมคุณภาพในการผลิตก็มีความเข้มงวดไม่แพ้กันในสายการผลิตมัทฉะของเขตหลานซาน
(Lanshan
District) มีการติดตั้ง สายการผลิตชาแบบนึ่งและบด 12 ขั้นตอนนำเข้าพร้อมด้วย สายการกลั่นกรองและฆ่าเชื้อ 10 ขั้นตอนระดับพรีเมียม ซึ่งถือเป็นการผสานเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทำให้ใบชาธรรมดาได้รับการยกระดับจากผลผลิตเกษตรขั้นต้นกลายเป็นวัตถุดิบอาหารพร้อมบริโภคที่มีความปลอดภัยและคุณภาพสูงในระดับพรีเมียม
ผลลัพธ์จากคุณภาพและการขยายห่วงโซ่อุตสาหกรรมเริ่มปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็ว
จนถึงเวลาที่รายงานข่าวนี้ บริษัท Rizhao Matcha
Holding Group ได้รับคำสั่งซื้อมัทฉะรวมกว่า 130 ตัน จากประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียและขณะนี้กำลังเตรียม
เริ่มการผลิตคำสั่งซื้อ 40 ตันแรกสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ
เบื้องหลังความสามารถในการแข่งขันนี้
คือ การสนับสนุนเชิงระบบจากรัฐบาลท้องถิ่น ที่ใช้ ผลิตภาพคุณภาพใหม่ (New
Quality Productive Forces) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชา โดยเขตหลานซาน (Lanshan
District) ได้ออก “ข้อคิดเห็นเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมมัทฉะและส่งเสริม
‘การเริ่มต้นครั้งที่สอง’ ของอุตสาหกรรมชา” ซึ่งในเขตทั้งหมดมีการคัดเลือก สวนชาที่มีสภาพแวดล้อมเป็นมิตรต่อธรรมชาติ
การจัดการมีประสิทธิภาพ และพันธุ์ชามีคุณลักษณะดี เพื่อนำมาทำเป็น ฐานวัตถุดิบมัทฉะ
โรงงานมาตรฐานใหม่ถูกสร้างและปรับปรุงตาม มาตรฐานสากล ภายใต้เงื่อนไข สะอาด ปลอดภัย
และปราศจากเชื้อ พร้อมติดตั้ง เครื่องจักรและอุปกรณ์ผลิตมัทฉะที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ
รวมถึง สายการผลิตมัทฉะจากใบชาขั้นต้นจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เพื่อสร้าง ระบบมาตรฐานที่ครอบคลุมตั้งแต่การปลูก
การแปรรูป ไปจนถึงการจำหน่าย ทำให้เขตผลิตชาที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลซานตงซึ่งมีสวนชากว่า
162,000 ไร่ สามารถเปิดเส้นทางใหม่ของ มัทฉะผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
นอกเหนือจากชาเขียวแบบเดิม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น